เรียนรู้ที่จะเดินทางคนเดียว Solo Traveling
Posted on May 10, 2014 13:42


เดินทางปี 2012 เป็นการเดินทางคนเดียว จากการวางแผนเตรียมการเดินทาง ไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่า ถ้ามัวแต่รอว่าจะมีใครไปด้วย คงไม่ต้องได้ทำ เพราะคงไม่มีใครมีเวลาว่างเหมือนกัน พร้อมกันกับเรา ดังนั้นไปมันคนเดียวนี่แหละ ไม่ได้คิดว่าจะไปค้นหาอะไรทั้งนั้น เพียงแค่ต้องการที่จะไปเห็นโลกใบนี้ อยากไป และการเดินทางคนเดียวก็ได้ทำให้เรารู้อะไรมากมาย ได้รับรู้ว่าความอิสระจากสิ่งที่ทำอยู่ทุกวัน ไม่มี to-do list ไม่มีคนข้างๆ มาเล่าว่าที่บ้านเป็นอย่างไร เกิดอะไรขึ้นบ้าง ไม่มีเสียงโทรศัพท์เรื่องงาน มีแต่วันนี้เราจะทำอะไร ไปที่ไหน ไปยังไง ต้องใช้เงินเท่าไหร่ ควรเริ่มออกเดินทางตอนกี่โมง ควรให้ถึงที่หมายกี่โมง คืนนี้จะนอนที่ไหน มันเป็นความอิสระที่สุดที่คนๆนึงจะพึงมีได้ และในขณะเดียวกันก็สงบอย่างบอกไม่ถูก

 

การเดินทางคนเดียวได้ทำให้เราได้มีเวลากับตัวเอง ได้ทำให้เราได้มีเวลาคิด ไม่จำเจกับสิ่งที่เราทำมาตลอดชีวิต ในสิ่งแวดล้อมที่แตกต่างจากที่เราเคยเห็น เคยอยู่ เคยใช้ชีวิต การมีเวลาแบบนี้กับตัวเองทำให้เราเปิดรับในสิ่งใหม่ๆ ที่เราได้ไปสัมผัส

 

การเดินทางคนเดียว ไม่ได้ทำให้เราต้องอยู่คนเดียวนานนักหรอก เพราะระหว่างที่เรานั่งกินอาหารเช้า จิบกาแฟ ก็จะมีเจ้าของบ้านมานั่งคุย ถ้าเราพักที่ bed&breakfast และมีเพื่อนคุยร่วมโต๊ะ ถ้าเราพักที่ hostel ได้มีการพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ความคิดเห็น และข้อมูลในที่ต่างๆ การเดินทางคนเดียวทำให้เราได้ไปนั่งกินข้าวเย็นพร้อมดื่มเบียร์เย็นๆ ที่ กาฎมัณฑุ เนปาลหลังจากเดินทางลงมาจากจุดชมวิวเขาเอเวอร์เรสต์ เพราะน้องผู้หญิงคนจีนไม่สบาย แต่ร่างกายยังแข็งแรง วิ่งแข่งเวลาลงมาข้างล่างภายในหนึ่งวันในขณะที่เราเดินสองวัน แล้วมาเจอกันที่ tea house ตอนเย็น คุยกันถูกคอ ก็ได้เพื่อนกินข้าวเย็นในวันถัดไปด้วย ได้มีเพื่อนร่วมเคบินรถไฟจาก Lisbon มา Madrid เป็นสาวใหญ่คนที่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ เราก็พูดภาษาสเปนได้ไม่ดี แต่ก็สื่อสารกันจนได้ จนถึงทุกวันนี้เราก็ยังติดต่อกันทาง LinkedIn นอกจากนี้ยังได้เพื่อนใหม่เป็นครอบครัวชาวแคนาดา เพราะเค้าเห็นเราเป็นผู้หญิงคนเดียว ตอนเราอยู่ที่อียิปต์และจอร์แดน เค้าชวนไปเที่ยวบ้านเค้าที่แคนาดา เราก็ไป เค้าก็ต้อนรับอย่างดีมาก และทุกวันนี้ก็ยังติดต่อกันเป็นระยะๆ ได้เพื่อนใหม่ตอนเดินที่ Acrospolis เมืองเอเธน ประเทศกรีซ เป็นเพื่อนชาวสเปน ที่น่ารักมาก รู้จักประเทศไทย เข้ามาทักและชวนคุย และก็ชวนกันเดินต่อไปพิพิธภัณฑ์ จนถึงทุกวันนี้ก็ยังติดต่อกันอยู่เช่นกัน ไม่ว่าจะไปที่ไหน ได้เพื่อนคุย เพื่อนกินข้าว เพื่อนใหม่ในทุกๆ ที่ที่ไป ไม่ได้อยู่คนเดียวเป็นเวลานานเลย ทั้งหมดนี้เป็นทางเลือกของเรา ถูกคอ ก็คุย ไม่อยากคุย อยากอยู่คนเดียวเงียบๆ ก็ทำได้

 

การเดินทางคนเดียว แน่นอนไม่ได้มีแต่ข้อดี ก็มีข้อให้ควรระวัง ใช่ว่าทุกคนที่เราประสบพอเจอจะดีไปซะหมด มีหลายครั้งที่เราต้องไปอยู่ในสถานที่ที่เราไม่ได้คิดจะไปและเป็นที่ที่เค้าห้ามไปในเวลากลางคืน โดยเฉพาะเป็นผู้หญิงคนเดียว มีวันที่เราลงสถานีรถไฟฟ้าผิดที่กรุงเอเธน ไปลงในย่านของคนติดยา มีการฉกชิงวิ่งราว มีขึ้ยาเข้ามาขอเงิน และถ้าไม่ให้อาจจะจบไม่สวยได้  มีวันที่เราต้องแชร์เคบินรถไฟกับผู้ชายรัสเซียที่ดูว่าเป็นคนใจดีมาก แต่เค้าดื่มตลอดเวลาจนถึงจุดที่ทำให้เรารู้สึกว่าจะไม่ปลอดภัย เพราะการเดินทางบนรถไฟตอนนั้นเป็นวันๆ บนรถไฟที่เดินทางจากมอสโค ถึง Ikust และมีวันที่เราเดินหลงทางหาที่พักที่กรุง Lisbon เราพูดภาษาโปรตุเกสไม่ได้ โทรศัพท์มือถือที่ set  แผนที่นำทางและที่อยู่เกิดไวรัส ข้อมูลหายเกลี้ยง เดินหาอยู่เป็นชั่วโมงจนสุดท้ายไม่รู้ตัวเองอยู่ที่ไหนของเมือง จะบอกแทกซี่ก็ไม่รู้จะบอกว่าไปไหน เพราะชื่อ hostel ไม่ใช่ชื่อที่เราจะออกเสียงถูกต้องและเค้าจะรู้จัก เป็นต้น เมื่อเจอสถานการณ์เหล่านี้ เราต้องรู้ว่าจะแก้สถานการณ์เฉพาะหน้าอย่างไร มีสติ อย่าตกใจ คิดและแก้ปัญหา เป็นเรื่องๆ ไป การไว้วางใจคนที่เราเพิ่งรู้จักต้องให้เวลากับมัน และทั้งหมดนี้เราก็ผ่านมันมาได้ ถือว่าได้ฝึกทักษะอีกแบบซะอีกแหน่ะ

 

และจากการเดินทางตลอดทั้งปี เมื่อเรามานั่งทบทวนสิ่งที่ผ่านมา เราก็สรุปได้ว่าการเดินทางทำให้เรามีมุมมองใหม่ๆ เข้ามาในชีวิต ทำให้เราค้นพบในสิ่งที่ทำให้เรามีความสุข สำหรับตัวเองคือการที่ได้ทำในสิ่งใหม่ๆ ไม่จำเจ ไม่ยึดติดกับสิ่งที่ตัวเองเคยทำอยู่ ส่งผลให้ไม่ว่าเราจะกลับไปทำงานเดิมที่เราเคยทำ เราก็สามารถปรับใช้ได้ หรืออาจจะทำให้เราคิดว่าเราควรทำอะไรที่แตกต่างไปเลยได้เช่นกัน

 

การเดินทางคนเดียว ไม่ได้จำกัดว่าต้องตีตั๋วเครื่องบินไปในที่ๆ ไกลแสนไกลจากบ้านเรา แต่เป็นการได้มีเวลาอยู่กับตัวเอง ได้มีเวลาคิด ไตร่ตรอง ค้นหา หรือมีประสบการณ์ใหม่ๆ คนเดียว ไม่ว่าจะการไปดูหนังรอบดึกคนเดียว การเดินเยาวราชตอนยามเย็นคนเดียว การขับรถไปกางเต้นท์เขาใหญ่คนเดียว หรือแม้กระทั่งการใช้เวลาหนึ่งวันกับตัวเอง ลองพักจากสิ่งที่เคยทำ เคยเห็นและเป็นอยู่ จากที่เคยทำเป็นคู่ หมู่คณะ หรือแบบครอบครัวจัดเต็ม ลองทำคนเดียวซักสองสามชั่วโมง ครึ่งวัน หนึ่งวัน หนึ่งสัปดาห์ ลองดูว่าเรารู้สึกอย่างไรและได้อะไรกับมัน บอกเลยมันเจ๋งมาก 

align=
ที่เมือง Fes ประเทศ Morocco เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2012
#thaitraveltheworld