ประสบการณ์ที่ Stockholm เมืองหลวงที่สวยที่สุดเมืองหนึ่งของโลก ในช่วงเดือนที่ไม่หนาวจนเกินไป แดดดี ฟ้าสวย ชอบจัง

29 เมษายน 

ตอนที่แล้วเล่าถึงเมื่อมาถึง Stockholm (ผ่านไปมาหลายรอบแล้ว) ครั้งนี้เป็นครั้งที่ต้องสำรวจ Stockholm จริงๆจัง 

ทิวทัศน์ของ Stockholm จาก ferry กำลังเทียบท่า Stockholm 

ระหว่างเดินจากท่าเรือเพื่อจะไปที่พัก 

หลังจาก check-in ที่ Chapman Hostel แล้ว เราเลือกแบบนอนคนเดียว นอนห้อง officer ราคาสูงนิดนึง แต่เพราะไม่อยากเป็นกังวลเรื่องกระเป๋า gadget ตัวเอง เพราะกะจะเดินตัวเบาๆ ไปเรื่อยๆ ของมีค่าวางไว้ล็อคดีๆในห้องตัวเองรู้สึกอุ่นใจ บวกกับจะได้นอนมองออกไปนอกหน้าต่างห้องส่วนตัว เห็นวังอยู่ตรงหน้า สวยจัง ขอประสบการณ์นอน hostel บนเรือแบบออริจิ อย่างนี้ จัดเต็มเรยค่าาาา

วางกระเป๋า Refresh แล้วก็ได้เวลาสำรวจ Stockholm เร่ิมจากการเดินไป ย่าน Hötorget หรือ downtown ของ Stockholm เพื่อไปซื้อ Stockholm card ซื้อ card คิดเป็นราคาค่าเข้าสถานที่ต่างๆ ถูกกว่าการไปจ่ายแต่ละที่เยอะเลย ที่สำคัญนั่งรถ เรือ subway และรถรางฟรีด้วย ประมาณว่าอยากไปไหนก็ไปเรย คุ้มเชียว 

ได้บัตรแล้วก็นั่งรถชมเมืองโดยรวมก่อน และต่อด้วยนั่งเรือ sightseeing

จบวันด้วยการนั่งชิลล์ๆ ที่ ย่าน Gamla Stan (old city)

30 เมษายน

เช้าวันนี้ตื่นมาพร้อมแดดที่ส่องเข้ามาในช่องแสง มองลอดออกไป Royal  Palace อยู่ตรงหน้า (วิวดีนะเนี่ย)​ คิดในใจ วันนี้เป็นวันของ Vasa museum กับ Kungliga Slottet หรือ Royal palace 

เดินเข้าไปที่ห้องอาหารอยู่ในอาคารบนฝั่ง กลิ่นกาแแฟหอมโชยมาเตะจมูก เท่านี้ก็ตื่นละ อาหารเช้าก็ทั่วไป ขนมปัง ไข่ โยเกิร์ต น้ำผลไม้ กาแฟ อิ่มท้องก็ได้เวลาสำรวจ

ชม Royal palace ก่อน วังนี้ของกษัตริย์ในช่วงศตวรรษที่ 18 

ต่อด้วย พาเหรด การเปลี่ยนทหารยาม

แล้วนั่งรถไปที่ Vasa museum เป็นพิพิธภัณฑ์ ที่แสดงเรือที่ล่มในตั้งแต่ปี 1628 ที่ถูกกู้ขึ้นมาแบบได้เกือบทั้งลำ และยังถูกเก็บรักษาสภาพได้เป็นอย่างดี เป็นวิทยาศาสตร์ด้านหนึ่งที่ทำให้คนทั่วโลกทึ่งในความสามารถในการเก็บรักษาสภาพเรือที่จมน้ำนานขนาดนี้ ยังคงสภาพเช่นนี้ไว้ได้ อีกสุดยอดความสามารถของมนุษย์

ค่ำวันนี้ไป ที่ Skansen ไม่ได้ไปส่วนพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง แต่ไปเพื่องาน Walpurgis night เป็นงานที่จัดทุกๆ วันที่ 30 เมษายนของปี เป็นงานฉลองต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ การสิ้นสุดของฤดูหนาวอันยาวนาน โดยการก่อกองไฟ ดื่มกิน พูดคุย พบปะ ฟังเพลงใบไม้ผลิต่างๆ (เพลงเหล่านี้จะร้องกันในหมู่นักเรียนนักศึกษาในช่วงเทศกาลอย่างนี้) ไม่ได้รู้ล่วงหน้าว่าเค้ามีเทศกาลหรอกนะ แต่เมื่อสบโอกาส ก็ต้องไม่พลาด ฟังไม่เข้าใจหรอกนะ แต่สัมผัสอารมณ์ความรู้สึกได้ ระหว่างนี้ก็มีการแสดงดนตรีบนเวที อากาศที่เย็นกำลังสบาย ดนตรีเพราะ บรรยากาศทุกคนมีความสุข ระหว่างที่เรานั่งฟัง มองซึมซับบรรยากาศอยู่นั้น ก็เกิดความรู้สึกมีความสุขแบบเปี่ยมล้นเกิดขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก นึกไปถึงความโชคดีของตัวเองที่ได้มีโอกาสทำในส่ิงที่อยากทำ มาอยู่ในสถานที่และบรรยากาศที่แวดล้อมด้วยผู้คนที่มีความสุขแบบนี้ ความรู้สึกเช่นนี้ในชีวิตเคยเกิดความรู้สึกแบบนี้เพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้น และนี่เป็นอีกหนึ่งครั้ง ที่ Stockholm ความทรงจำนี้จะไม่มีวันลืมเลยทั้งชีวิต

ขากลับ ก็ได้ภาพ Stockholm ยามค่ำคืน สวยไปอีกแบบ

1  พฤษภาคม

หลังจากคืน Walpurgis night ที่ Skansen วันนี้อากาศดีอย่างนี้ เหมาะกับการไปพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งมาก ว่าแล้วไป Skansen ดีกว่า  Skansen เป็นสถานที่ที่ชาว Stockholm พาครอบครัวมาพักผ่อนวันหยุด อากาศสบายๆ เช่นนี้ ที่นี่มี display ให้ดูวิถีชีวิตเมื่อก่อน สวนสัตว์มีสัตว์มากมายให้ดู เด็กจะชอบมาก 

หลังจากเดินเล่นที่ Skansen แล้วก็ไปอีกฝั่งของ Stockholm ย่าน Kungsholmen เพื่อไป City Hall and the Tower museum 

ที่ Tower museum นี่เรามอง Stockholm จากด้านบน ลงมาจะเห็นย่าน Gamla Stan สวยอ่ะ 

ต่อด้วย ไป Sky view เพื่อมอง Stockholm จากด้านบน จากอีกด้านของเมือง 

ช่วงบ่ายๆ ย้อนกลับมาที่ย่าน Gamla Stan (old city) อีกครั้ง เดินที่นี่กี่ครั้งก็ไม่เบื่อ เข้าไปดู Storkyrkan Cathedral 

และ Nobel museum 

จบด้วยการนั่งทานอาหารและเครื่องดื่มร้อนๆ ก่อนเดินกลับที่พัก 

จบอีกวันประทับใจ

2  พฤษภาคม 

เช้านี้ต้องตื่นเช้ามาก เพราะต้องไปขึ้นรถไฟขบวนเช้าตรู่เพื่อไป Copenhagen และต่อเครื่องบินไป Reykjavik เช้าๆ อย่างนี้ ฟ้ายังมืด ผู้คนยังนอนหลับอยู่ เราต้องพากระเป๋าอันเป็นที่รักไปขึ้นรถไฟ เดินไปก็ทำให้นึกย้อนไปสามวันที่ผ่านมา ช่างเป็นเมืองที่น่าอยู่อะไรอย่างนี้ bye-bye Stockholm :)