Guatemala-Honduras-Nicaragua-Costa Rica ตอนที่ 1
Posted on March 4, 2018 14:30


เส้นทางที่อเมริกากลางวางแผนไว้ตามนี้ค่ะ เริ่มจาก Antigua ประเทศ Guatemala และไปจบที่ เมือง San Jose ประเทศ Costa Rica โดยทางรถค่ะ

align=

22 กันยายน 55

วันนี้บินจาก Havana Cuba มาถึง Guatemala วันเดียวกันตอนบ่ายๆ

ที่พักไม่ได้อยู่ที่ Guatemala city เพราะรู้ๆ กันว่าค่อนข้างอันตราย ผู้หญิงคนเดียวไปที่จุดนัดพบเลยดีกว่า ที่ Antigua เรยจ้าาาา

Antigua เป็นเมืองที่สำคัญของอเมริกากลางเมื่ออดีต สถาปัตยกรรมก็แบบ Spanish colonial เมื่อปี 1773 เมืองนี้มีแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ สิ่งปลูกสร้างทั้งหลายถูกทำลาย แต่ก็มีหลายแห่งที่ได้รับการบูรณะขึ้นมาให้ยังได้ชมสถาปัตยกรรมแบบ Spanish colonial กันอยู่ สถาปัตยกรรมที่เมือง Antigua นี้เป็นหนึ่งในมรดกโลกเลยทีเดียว

ประตูโค้งนี้เป็น landmark ที่สำคัญของเมืองนี้ ด้านหลังคือภูเขาไฟ Volcán de Agua
align=

Antigua มีภูเขาไฟที่สำคัญของอเมริกากลางเช่นกัน คือ Volcan de Agua หรือ Volcano of Water มีความสูงถึง 3,766 เมตร
align=

นอกจากนี้ Antigua ก็ยังเป็นพื้นที่ปลูกกาแฟที่สำคัญของโลกเช่นกัน ส่งออกไปให้กับร้านกาแฟแบรนด์ดังๆ ทั่วโลกทีเดียว อะไรบัคบัค ก็ใช่ หุหุหุ

Antigua เป็นเมืองที่นักท่องเที่ยว และนักเดินทางชอบจะมาพัก หลายคนมาเรียนภาษาสเปนที่นี่เพราะค่าเรียนถูกมาก เมื่อเทียบกับสเปน หรืออเมริกาใต้ แถมคนน่ารัก (แต่ในคนน่ารัก ก็มีคนไม่ดีรวมอยู่ด้วย เป็นธรรมดา ก็ระแวดระวังกันนะ)

คืนนี้ก็มาถึงบ่ายค่ำแล้ว เข้าที่พัก ทานอาหารแล้วก็ออกเดินไปแค่ร้านค้าใกล้ๆ ก็ให้รู้ทิศรู้ทาง แล้วก็กลับมาที่ห้อง
เพราะผู้หญิงไม่ควรเดินคนเดียวตอนกลางคืนเป็นอย่างยิ่ง หาข้อมูลเพื่อให้เข้าใจประเทศกลุ่มอเมริกากลางมากขึ้น

23 กันยายน 55

ตื่นมาตอนเช้า ก็มีอาหารเช้ามาเสิร์ฟถึงห้องเรย บ๊ะ ดีจัง ไม่ค่อยได้ทำงี้มาเกือบจะปีแล้ว
align=

ทานอาหารเช้าเสร็จ ก็เก็บข้าวของ แล้วเดินไปอีกที่พัก ซึ่งเป็น homestay เป็นจุดนัดพบกับกลุ่มที่จะเดินทางไปด้วยกัน ไปถึงก็เจอเพื่อนร่วมห้องแล้วสองคน ว่าแล้วเราก็เอ่ยปากชวน ไปสำรวจเมืองนี้กันมั๊ย หนึ่งคนบอกไป อีกคนขอนอนก่อนเพราะเพิ่งมาถึงเมื่อเช้านี้

ว่าแล้วสองสาว หนึ่งคนจากประเทศไทย อีกคนจากประเทศอังกฤษ ก็ออกเดินเท้าไปด้วยกัน ตามเมือง Antigua
align=

Façade of the former El Carmen church มีของขายแบกะดิน เป็นสินค้าประเภทหัตกรรมซะเยอะ
align=

ตลาดขายของศิลปะหัตถกรรมพื้นบ้านของที่นี่
align=

align=

Hermano Pedro ancient Hospital
align=

ต่อด้วยไปชมไร่กาแฟที่มีชื่อเสียงของที่นี่ ได้ความรู้ดีทีเดียวเรื่องพันธุ์กาแฟ วิธีการปลูก การดูแล ไปจนถึงวิธีการคั่วให้ออกมาเป็นแต่ละประเภทเมล็ดกาแฟ และการ blend หรือผสมระหว่างเมล็ดความเข้มเท่าไหร่ กับเท่าไหร่ ให้ได้มาซึ่งกาแฟ blend สูตรต่างๆ
align=

align=

align=

align=

ไปถึงไร่กาแฟ และโรงงานคั่วเมล็ดกาแฟ ก็ต้องชิมชิมิ ที่เค้าว่าอร่อยและแพง (ที่ไม่ blend เป็นเมล็ดคั่วพิเศษอย่างเดียว)​ ไม่ใช่ทางเราอ่ะ สงสัยประเภทคอของถูกคือต้อง blend มาเรยดีกว่า (กาแฟที่ขายที่ร้านกาแฟทั่วไปและ chain ต่างๆ เป็นประเภท blend ท้างน้านเรย)
align=

เมือง Antigua นี่มีสีสันจริงๆ ด้วย เป็นเมืองเล็กๆ แต่สถาปัตยกรรมที่ถูกบูรณะและดูแลอย่างดี ทำให้เมืองนี้มีเสน่ห์ของเค้ามาก

เย็นนี้เราพบกับเพื่อนร่วมกลุ่มคนอื่นๆ ทำความรู้จักกันก่อนจะเดินทางด้วยกันอีกหลายวัน

24 กันยายน 55

วันนี้พวกเราออกเดินทางแต่เช้า จุดหมายอยู่ที่ Copan ประเทศฮอนดูรัส ใช้เวลาเดินทาง ประมาณ 6 ชั่วโมง

ระหว่างทางเราก็ผ่านชนบทด้านตะวันออกของ Guatemala เขียวสวยจุงเบย
align=

ถนนเค้าก็ดีนะ แต่จำนวนเลนไม่เยอะ เลยออกมาเป็นแบบนี้แหละ
align=

ก็เลยเกิดอาชีพขายของขบเคี้ยวตามท้องถนน เราก็ซื้อมาชิม มันคือกล้วยชนิด plantain ทอดเคลือบน้ำตาล เหมือนกล้วยฉาบบ้านเรา แต่ชนิดกล้วยคนละแบบ อร่อยดีนะ
align=

และแล้วเหตุไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เอ้า ยางแตกกลางทาง ดีนะเป็นช่วงกำลังขึ้นเนิน รถวิ่งไม่เร็ว พอพวกเราลงไปดู ที่นี่เค้าใช้ทรัพยากรแบบให้หมดจริงๆ ยางที่แตก เพราะมันไม่เหลือดอกยางอยู่แล้ว เฮ้อ จะเอาชีวิตรอดมั๊ยเนี่ย หลังจากเปลี่ยนยาง ที่ก็ใช่ว่าใหม่นะไอ้เส้นที่เปลี่ยนเนี่ย ลุ้นกันไปตลอดทาง ก็ไปถึงที่หมายแบบตลอดรอดฝั่ง ดีนะนั่งรถคันนี้แค่วันนี้วันเดียว
align=

วันนี้พวกเรานอนที่ Guesthouse ที่ Copan หลังจากวางกระเป๋า พวกเราก็เดินไปชมเมือง กด ATM เอาเสื้อผ้าไปร้านซักแห้งก็ว่ากันไป ใครใคร่นอนพักที่เปลใน guesthouse ก็ทำกันไป เราก็ไปนั่งชิลล์ๆที่ร้านกาแฟ

หนึ่งในวิธีการลำเลียงของ ของคน Copan
align=

สถาปัตยกรรมที่ Copan
align=

align=

กับเพื่อนร่วมเดินทาง
align=

คืนนี้มาถึงที่พัก กำลังจะสั่งอาหารเย็น ฝนตก ไฟดับ แม่เจ้าคล้ายชนบทเมืองไทยยังไงยังงั้น ฝนตกปุ๊บ ไฟดับปั๊บ ดับนานด้วยนะ เลยต้องเอาเทียนขึ้นมาจุด กว่าจะได้นอนก็ต้องรอให้ไฟฟ้ากลับมา เพราะอากาศค่อนข้างร้อน ไม่มีพัดลม คงนอนหลับยาก

ไฟดับ ต้องจุดเทียนสั่งอาหารกันเรย
align=

25 กันยายน 55

เช้าวันนี้ พวกเราสำรวจ Mayan ruin of Copan ที่นี่เป็นอีกหนึ่งในมรดกโลก เมื่อปี 1980 ตั้งอยู่ที่ฮอนดูรัสตะวันตกติดกับชายแดนประเทศกัวเตมาลา

Copan ถือเป็นเมืองที่ใต้ที่สุดที่ชาวมายา หรือมายัน ขยายอาณานิคมมาถึง

align=

align=

align=

align=

เหมือนในธนบัตรของกัวเตมาลาเลย
align=

align=

align=

Stela M and the Hieroglyphic Stairway
align=

ระหว่างเดินชมเมืองโบราณที่นี่ ก็พบว่าที่นี่มีนก Macaw ธรรมชาติอยู่เยอะมาก บินกันพรึบพรั่บๆ อยู่บนหัว มองขึ้นไป สีสวยสุดๆ อ่ะ
align=

align=

หลังจากเดินกันเหนื่อยที่ Mayan ruin of Copan ก็ได้เวลาหาอะไรอร่อยๆ ทาน ชอบอาหารที่นี่จริงๆ เรย
align=

26 กันยายน 55

วันนี้เป็นวันที่จะต้องเดินทางไกลมาก จาก Copan ไป San Pedro Sula ใช้เวลา 3 ชั่วโมง และต่อไปที่ La Cieba อีก 3 ชั่วโมง แล้วก็นั่งเรือ ferry ต่อไปที่เกาะ Roatan อีก กว่าจะไปถึงที่เกาะ เย็นๆ เรย ไปถึงหิวหน้ามืด 555 แต่ที่พักสวยอ่ะ มองออกไปเห็นทะเล เย้
align=

align=

align=

คืนนี้พวกเราทานอาหารที่ร้านอาหารชาวท้องถิ่น นั่งกันริมหาด บรรยากาศคล้ายๆ เวลาเราไประยองแล้วนั่งกินริมหาดงั้นแหละ เพลินดี หลังจากนั้นก็ไปต่อที่ร้านอาหารกึ่งบาร์

สั่งเครื่องดื่มกันเรยดีก่า
align=

วันนี้ทุกคนดื่มกันมากมาย เมามากเมาน้อยกันไป และเพื่อนร่วมทางชาวออสเตรเลียคนหนึ่งเมาถึงขั้นเก็บสิ่งที่อัดอั้นในใจไม่อยู่ ระบายออกมาแบบน้ำตาเขื่อนแตก จนพวกเราทั้งหลายตกใจว่าร้องไห้ทำไม ใครทำอะไร

ระหว่างลากกันเดินกลับที่พัก เธอก็เริ่มเล่า อ่อ เพิ่งรู้ว่าเมื่อวันที่เค้ามาถึง Antigua เค้าได้ออกไปกับเพื่อนหญิงอีกคนที่มาด้วยกัน ไปเที่ยวกลางคืนกับเพื่อนชายที่พบกันที่ Antigua และขากลับเพื่อนที่ไปด้วยกันอยากอยู่ต่อ เธออยากกลับ เพื่อนก็เลยเรียกแทกซี่ให้ (เพราะพวกเราถูกย้ำว่าห้ามเดินผู้หญิงคนเดียวตอนกลางคืน หรือเดินผู้หญิงกลุ่มล้วนก็ไม่ควร ถ้าจะต้องกลับจากที่ไหนตอนกลางคืนให้นั่งแทกซี่เท่านั้น เธอก็ทำตาม) พอแทกซี่มาเกือบถึงที่พัก กลับไม่จอดหน้าที่พัก แต่จอดไกลออกไปประมาณ 10 เมตร เธอลงมา จ่ายค่าแทกซี่ แล้วก็กำลังจะเดินต่อไปยังบ้าน ก็พบว่ามีผู้ชายพร้อมปืนยืนรออยู่ แทกซี่ออกไปแล้ว และชายที่รออยู่เอาปืนจ่อหัว พร้อมมือลูบไล้ไปทั่วร่างเพื่อหาของมีค่า เธอเอาเงินให้หมด (ดีว่าไม่ได้เอากระเป๋าสตางค์ไปด้วย เอาไปแค่เงินพอค่าเครื่องดื่มกับค่าแทกซี่ และไม่มีพาสปอร์ตไปด้วย)​ แล้วก็ปล่อยเธอเข้าบ้าน (ดีนะมันไม่ทำอะไรมากไปกว่านั้น)​ แต่หลังจากวันนั้นไม่มีใครรู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น เธอเก็บมันไว้ในใจคนเดียว จนมาถึงวันนี้ระเบิด ก็ปลอบกันไป ได้เป็นอุทธาหรณ์ให้พวกเราระวังตัวมากยิ่งขึ้นไปอีก

27-28 กันยายน 55

สองวันนี้ใช้ชีวิตที่เกาะ Roatan ที่นี่มีกิจกรรมให้เล่นมากมาย ไม่ว่าจะแค่นอนอาบแดดสลับกับจิบคอกเทลริมหาด หรือจะไปว่ายน้ำกับปลาโลมา หรือจะไปดำน้ำกับฉลาม เราเลือกที่จะทำอันแรก กับอันหลัง อยากว่ายน้ำกับปลาโลมาเช่นกัน (เพราะที่นี่ถูกกว่าที่อื่นมาก)​ แต่ด้วยเรื่องเวลาที่มีที่นี่ จะหักโหมไปมั๊ย ชีวิตก็ต้อง relax บ้างไรบ้าง ค่อยไปว่ายกับโลมาที่อื่นละกาาานนนะ
align=

align=

ดำน้ำกับฉลาม ดำง่ายมาก ไม่ต้องไปไล่หาเหมือนบ้านเรา ทิ้งดิ่งลงไปเฉยๆ เลย ให้แน่ใจว่าลงไปอยู่หลังกำแพงหิน แล้วก็ปักหลักตรงนั้นเลย ลึกแค่ 20-25เมตรเท่านั้น แล้วก็จะมีการเอาอาหารมาล่อให้ฉลามมาบริเวณนี้ แล้วให้อาหารฉลาม หลังจากนั้นก็ว่ายน้ำไปกับเค้าได้ ตื่นเต้นที่สุด
align=

align=

link video ว่ายน้ำกับฉลาม https://youtu.be/4fLmI6d_jBU 

29 กันยายน 55

วันนี้แผนเดิมคือจาก Roatan island ไปที่ Comayagua แต่พวกเราเห็นพ้องต้องกันว่าเรายอมนั่งรถยาวมว๊าาากกกก ไปที่ Leon เพราะพวกเราอยากไปดูภูเขาไฟที่ยังมีลาวาให้เห็นอยู่ ว่าแล้วก็นี่เรย นั่งรถท้างงงงวัน ไปถึง Leon
align=

30 กันยายน 55

เช้านี้จะไปเล่น volcano boarding (จริงๆ ก็คือ sandboarding นั่นแหละ แต่เอามาเล่นที่ภูเขาไฟ เราเลยเรียกว่า volcano boarding อิอิ) ที่ภูเขาไฟ Cerro Negro (เป็นภูเขาไฟที่เพิ่งจากระเบิดครั้งล่าสุดเมื่อสิงหาคม ปี 1999)
align=

ก่อนจะได้เล่น ก็ต้องเดินขึ้นไปก่อน หินภูเขาไฟที่เป็นแบบก้อนเล็กแบบนี้เดินยากจริง มองขึ้นไปไม่สูงมาก แต่กว่าจะเดินขึ้นไปถึง คล้ายๆกับเดินไปบนทะเลทราย เดินก้าวยาว ถอยมาครึ่งก้าว อย่างงั้นเรย แต่ก็สวยอ่ะ ภูเขาไฟสีดำ สมชื่อ และยังปะทุ active อยู่เลย ถามไกด์ที่พาไป ถ้ามันปะทุขึ้นมาทำไง เค้าบอก ปะทุมา ก็วิ่ง เออ จริงของมัน 555 เดินไปบริเวณที่ร้อนมากๆ เอามือไปแตะร้อนมากๆ ไอร้อนขึ้นมา บางคนยางรองเท้าถึงขั้นนิ่มเรยทีเดียว
align=

align=

align=

align=

สวยจริงสวยจัง สีน้ำตาล แดง และเขียว สวยอ่ะ
align=

และแล้วก็มาถึงอีกด้านที่พวกเราจะเล่น volcano boarding กัน ซักซ้อมการบังคับแล้วก็เริ่มได้เลย
align=

align=

align=

align=

ใครอยากเล่นรอบสองก็ให้ไปวิ่งกลับขึ้นมาอีกที ป๊าดดดด (ขออนุญาตอุทานเป็นภาษาอีสานแท้) ใครจะวิ่งขึ้นอีกทีล่ะเนี่ย กว่าจะเดินขึ้นมาถึงได้เป็นชั่วโมง 555 เอาแค่รอบเดียวก็มันส์แล้วจ้าาาา ก่อนลง สีสันสวยงาม สะอาดสะอ้าน ลงไปเสร็จดำเลอะไปทั้งตัว

เสร็จจากที่นี่ต้องกลับไปล้างตัวที่ที่พัก ที่นี่เราแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม บางคนไม่ไปที่ภูเขาไฟ Telica
ก็ล่วงหน้าไป Granada ได้เลย ส่วนเราไปที่ภูเขาไฟ Telica ก่อนไป Granada

Telica เป็นภูเขาไฟที่ยัง active อยู่และเพิ่งปะทุครั้งล่าสุดก็เมื่อปี 2011 ปีที่แล้วนี่เอง แม้ว่าแถบนี้จะมีภูเขาไฟอยู่มากมาย active ก็เยอะ แต่ภุเขาไฟที่ยังมีลาวาให้เห็นเนี่ยมีไม่เยอะ Telica เป็นหนึ่งในภูเขาไฟไม่กี่ลูกที่เรามองเห็นลาวาเมื่อมองจากปล่องภูเขาไฟลงมา

ทางขึ้นไป Telica volcano ยากลำบากงี้เรย รถเกือบตั้งฉากกับพื้นโลกเป็นบางครั้ง เพราะความชัน หวาดเสียวเจงไรเจง
align=

รถมาได้ถึงตรงนี้ จากนี้ไปเดินเท้า นั่นภูเขาลูกนั้นที่มองเห็นอยู่ตรงหน้า ดูเหมือนใกล้ แต่มิใช่เรย เดินกันเหนื่อยเลยแหละ
align=

แต่พอมาถึง โอ้โฮ คุ้มค่ากับการเดินบุกบั่นมาที่นี่ ปล่องภูเขาไฟ Telica ในที่สุดก็มาถึง
align=

ชีวิตนี้คุ้มแล้วที่ได้มานอนเอาหน้ายื่นไปที่ปล่องภูเขาไฟยัง active และมีลาวาที่เรามองเห็นจากปล่องภูเขาไฟ
align=

align=

align=

ด้วยฝนที่ตกปรอยๆมาตลอดระยะเวลาที่เราเดินขึ้นมา ทำให้มีหมอกควันปกคลุมปล่องภูเขาไฟ มองไม่ค่อยเห็นลาวา แต่แล้วฟ้าก็เป็นใจ ลมที่พัดเอาไอหมอกควันไป มองเห็นลาวาแบบชัดเจนตอนค่ำแล้ว ถือว่าคุ้มที่สุดแล้ว
align=

วันนี้ประทับใจมากๆ กับประสบการณ์กับภูเขาไฟทั้งสองแห่ง สนุก เฉพาะตัว และประทับใจที่สุดอ่ะ

จบตอนนี้กับประสบการณ์ที่ประทับใจสุดๆ ที่ Leon ตอนต่อไปยังมีประสบการณ์กับภูเขาไฟที่ Granada มาเล่าต่อค่ะ