Toronto-Vancouver-Alaska ตอนที่ 1
Posted on July 5, 2014 09:57


เส้นทางนี้จริงๆเริ่มจากอังกฤษ ไอร์แลนด์แล้วค่อยมาแคนาดา เนื่องจากจะรวบรวมเรื่องราวอังกฤษ ไอร์แลนด์ไปไว้อีกเป็นเรื่องราวอีกเส้นทางจะดีกว่า 

23 ส.ค. 55
การเดินทางมา Toronto ครั้งนี้มีความพิเศษตรงที่เป็นการมาตามคำชวนเชิญของเพื่อนใหม่ชาวแคนาดาครอบครัวหนึ่ง (เราเรียกพวกเค้าว่าครอบครัว McCrory) ที่เราไปเจอที่อิยิปต์และมีโอกาสเดินทางด้วยกันในอิยิปต์และจอร์แดนนั้น ได้แลกเปลี่ยนข้อมูลเรื่องเส้นทางการเดินทางว่าเราจะไปแคนาดานะ แต่จะเป็นเพียงแค่ Vancouver เมื่อเค้ารู้เค้าบอกว่าอยากให้แวะที่ Toronto หาเค้าด้วย เพราะเค้าจะพาไปดูบ้านพักเสาร์อาทิตย์เค้านอกเมือง Toronto เมื่อเค้าออกปากชวน เราก็ไม่รีรอ ตอบตกลง เพราะนั่นจะเป็นโอกาสได้ไปสัมผัส lifestyle ของชาวแคนาดาจริงๆ (ซึ่งปกติจะได้สัมผัสเพียงแค่การไปสถานที่ท่องเที่ยวและธุรกิจเท่านั้น) นอกจากนี้มีเพื่อนสองคนที่อาศัยอยู่ที่ Toronto ก็ถือโอกาสแวะไปเยี่ยมด้วยเลย หนึ่งคือเพื่อนใหม่ชาวแคนาดาอีกคนที่ไปเจอกันเมื่อไปตุรกี เธอชื่อ Navdeep ส่วนอีกคนเป็นอาจารย์สอนภาษาสเปน 

เมื่อบินไปถึง Toronto (จากอังกฤษ) ครอบครับ McCrory ก็มารับถึงสนามบิน จากสนามบินเราก็ไปพักย่าน Niagara Falls เลย เดินตอนกลางคืน Niagara Falls สวยแบบนี้ 
align=

align=

align=

24 ส.ค. 55
เช้าทานอาหารเช้าแบบง่ายๆ เสร็จก็เดินชม Niagara Falls ตอนกลางวัน ต่อด้วยเดินเล่นแถบนั้น ซึ่งช่างเป็นสถานที่ท่องเที่ยวจริงๆ Niagara Falls จะเป็นน้ำตกในเมือง ในขณะที่ส่วนตัวจะชอบน้ำตกในป่ามากกว่า

align=

align=

align=

มาอีกด้านของน้ำตก ก็จะเป็นเมืองท่องเที่ยวจริงๆ อย่างที่เห็น
align=

align=

align=

หลังจากนั้นก็ขับรถเพื่อไปที่บ้านพักสุดสัปดาห์ของครอบครัว McCrory แต่ระหว่างทางก็แวะตลอดทาง ไม่ว่าจะเป็นแม่น้ำ Niagara 
align=

กับครอบครัว McCrory ที่แม่น้ำไนแองการ่า
align=

Niagara-on-the-lake ที่ที่คนมานั่งตกปลา เล่นเรือ เดินเล่น hangout กับธรรมชาติสวยๆแบบนี้
align=

St.Catherine เพื่อดูวิธีที่เค้า operate canal lock - วิธีการที่ให้เรือผ่านแต่ละล๊อค คือปิดเปิดประตูกั้นน้ำเพื่อให้ระดับน้ำสูงขึ้นหรือปล่อยน้ำเพื่อให้ต่ำลงเพื่อให้เรื่อผ่านเข้าออกได้ คนนี่ฉลาดจิง ๆ
align=

align=

ไร่องุ่น โรงงานผลิตไวน์ 
align=

align=

align=

ไร่ผลไม้
align=

ผ่านที่เรียกว่า Jordan Village แวะทานอาหารกลางวัน
align=

align=

align=

ขับรถทั้งวัน นึกว่าเค้าจะเหน็ดจะเหนื่อย ไม่เรย ยังแวะพาลูกสาวลูกชายลองจักรยาน เพราะใกล้จะวันเกิดของลูก สิ่งที่เค้าเตรียมจะซื้อให้คือจักรยาน เอาไว้ขี่บนเขาและขี่ทางไกล แวะซื้อของมาทำทานตอนเย็น

ยังกิจกรรมยังไม่หมด เมื่อมาถึงบ้านพักสุดสัปดาห์ของครอบครัว McCrory ที่แถบใกล้ๆ Beaver Valley ยังพาเราขี่ ATV ไปดูรอบๆ ที่ของเค้าด้วย เย็นนี้ทานอาหารที่บ้านและได้พูดคุยทำความรู้จักกับทั้งครอบครัวและเพื่อนๆของเค้าได้ดีขึ้น 

ได้เห็น lifestyle ของชาวแคนาดาแท้ๆ แล้วก็ให้รู้ว่าเค้าใช้ชีวิตให้สนุกจริงๆ ที่ของครอบครัวนี้ผืนใหญ่มาก น่าจะประมาณ 250 เอเคอร์ หรือประมาณ 630ไร่ ทำบ้านอยู่ด้านหน้าจากถนนเข้ามาพอสมควร ด้านลึกเข้าไปจะมีลำธารผ่าน สวยมาก ครอบครัวนี้ทำกิจกรรมมากมายในช่วงวันหยุด หน้าร้อนแบบนี้ เค้าพายเรือแคนูในลำธาร ขี่ ATV ในที่อันกว้างของเค้า ขี่จักรยาน ทำกิจกรรมกันเป็นครอบครัว ถ้านอกที่ดินของเค้าเอง ใกล้ๆ มี golf course มีถ้ำ มีผาให้ปี มี ski track แล้วทั้งครอบครัว active ทุกคน 

คืนนี้นอนหลับที่บ้านนี้ อากาศดีมากๆ นอนเปิดหน้าต่างเย็นกำลังดี หลับสบ๊ายยยย

25 ส.ค. 55
วันนี้ครอบครัว McCrory พาทำกิจกรรมที่พวกเค้าทำกันตอนวันหยุดแบบนี้ เริ่มจากไปแคนูที่ลำธารใกล้บ้าน (อุปกรณ์แคนูเหล่านี้ก็เป็นของขวัญวันเกิดเด็กๆเมื่อสองปีที่แล้ว) 
align=

ต่อด้วยตอนสายไปถ้ำแถวๆ ไม่ไกลจากบ้าน ชื่อถ้ำ Duncan Cave ถ้ำที่นี่ถือเป็นของสาธารณะ ใครจะมาปีนเมื่อไหร่ก็ได้ ไม่ต้องเสียค่าอะไรทั้งนั้น ในนี้นอกจากมีถ้ำที่หลายคนมาปีนถ้ำแล้วยังมีคนมาปีนผา หรือมาเรียนปีนผากันมากมาย 
align=

align=

align=

align=

เสร็จแล้วแวะที่ ski track Blue Mountain ที่ช่วงหน้าหนาวเป็น ski track ช่วงหน้าร้อนเอาไว้เป็นที่ปิคนิค เดิน trail hiking 
align=

align=

หลังจากนั้นกลับมาพักแป๊บนึง ระหว่างที่เราพัก คุณพ่อพาคุณลูกไปตีกอล์ฟ (จะ active อะไรปานนี้)​ 

สังเกตได้ว่าลูกสองคนของเค้าไม่ติดทีวี ไม่ติดอินเตอร์เนทแบบดึงไม่ออกเหมือนเด็กบ้านเรา แต่กลับเล่นกีฬา กิจกรรมกลางแจ้งมากมายแถมลูกสาวเป็นนักกีฬาฮ๊อคกี้น้ำแข็งทีมชาติเยาวชน ส่วนลูกชายนักกีฬากอล์ฟ active สุดๆ 

ตกเย็นผู้หญิงทั้งสามคนรวมเราด้วย ไปสมทบสองพ่อลูกที่สนามกอล์ฟและทานอาหารเย็นที่นั่น 

26 ส.ค. 55
เช้าวันนี้หลังจากอาหารเช้าง่ายๆ โดยการไปเก็บเห็ดแถวๆ บ้านมาผัด เห็ดใหญ่ขนาดนี้ ผัดทีกินได้ทั้งบ้าน
align=

หลังจากนั้นไปดู Music Ride ที่ Rodeo festival 
align=

Rodeo Festival เพิ่งรู้ว่าที่นี่ก็มีคาวบอย
align=

align=

align=

ไปไหนก็ต้องลองเบียร์ที่นั่น 
align=

แล้วช่วงบ่ายก็กลับเข้าเมือง Toronto โดยมีเจ้าของบ้านขับมาส่งถึงที่ hostel ใน Toronto 

ต้องขอบคุณครอบครัว McCrory อย่างที่สุดสำหรับน้ำใจและการต้อนรับอันอบอุ่นมากๆ ในตลอดระยะเวลา 3-4 วันที่ผ่านมา 

27 ส.ค. 55
วันนี้เดินเล่นใน Toronto และต่อด้วยเจอเพื่อนที่เคยเดินทางด้วยกันในตุรกี ทานข้าว catch up กัน นัดเจอกันที่ Toronto Eaton Center ซึ่งถือว่าเป็น shopping center ที่ใหญ่ที่สุดของที่นี่ หลังจากนั้นเค้าพาไปที่พักเค้าในย่าน Kensington market ถือว่าเป็นเมืองเก่าในย่าน downtown Toronto เป็นย่านที่มีคนหลายชาติอาศัยอยู่ (และแน่นอนก็ต้องมีคนไทยรวมอยู่ด้วย) ทุกชาติจริงๆ อาจจะครบทุกชาติก็ว่าได้ และตลาดนี้ขายทุกสิ่ง ที่นี่ใกล้กับมหาวิทยาลัย Toronto ซึ่งเค้ายังเรียนอยู่ที่นั่น Kensington market ยังถือเป็น National Historic Site of Canada ด้วย 
align=

align=

align=

ก่อนจะเสร็จสิ้นภาระกิจของการ Toronto ก็ต้องไม่ลืมของฝากของให้เพื่อนคนสำคัญนั่นคือหมวกทีม baseball ที่ชื่อดังมากของที่นี่คือทีม Blue Jay ถ้ามีเวลามากกว่านี้จะไปดูเกมส์การแข่งขัน คงต้องเอาไว้โอกาสหน้า

เสร็จสิ้นภาระกิจที่ Toronto ที่ตั้งใจจะทำเรียบร้อย พรุ่งนี้เตรียมตัวเดินทางไป Vancouver

28 ส.ค. 55
วันนี้พอบินไปถึง Vancouver ลากกระเป๋าไปถึงโรงแรมบนถนน Burrard Street เสร็จ สิ่งแรกที่ทำคือจอง whale watching trip เพราะอาจจะเป็นไปได้ว่าไม่เจอปลาวาฬ อาจจะต้องไปอีกวัน เมื่อจองเสร็จ ก็สามารถ relax ได้ จากโรงแรมไม่ไกลก็เป็น shopping area แวะทานข้าวที่ร้านอาหารไทย รู้สึกคิดถึงความเผ็ด ก่อนกลับเข้าที่พัก แวะซื้อเครื่องดื่มพบว่าเครื่องดื่ม alcohol ต้องไปซื้อที่ร้านขายโดยเฉพาะ จริงๆไม่ได้อยากดื่ม แต่อยากรู้ ก็เลยแวะไป ได้ไวน์มาขวดนึง 555

29 ส.ค. 55 
วันนี้กิจกรรมที่มุ่งมั่นจะทำคือ Whale Watching ล่องเรือไกลมาก ใช้เวลาเกือบทั้งวัน แต่เราไม่เจอปลาวาฬเลย ดีที่ที่นี่การันตีว่าต้องเจอ ถ้าเราไม่เจอ เราสามารถเอา ticket อันเดิมที่เราเคยซื้อมากี่ทีก็ได้จนเจอปลาวาฬ แหม ถ้าอยู่ที่นี่ก็คงไม่เป็นไร เวลามีน้อยนิด แต่ไม่เป็นไร เราจะกลับมาอีกครั้งวันมะรืน 

align=

align=

align=

align=

align=

วันนี้แล่นเรือหาปลาวาฬไปไกลมาก แต่ไม่เจอ
align=

กลับจาก Whale Watching ที่ไม่เห็นปลาวาฬซักตัว ก็แวะที่ downtown Vancouver เดินเล่น หาอะไรทาน แล้วก็กลับที่พัก 

30 ส.ค. 55 
วันนี้เป็นวันสำรวจเมืองที่น่าอยู่แห่งนี้ โดยอาศัยรถ hop-on hop-off และก็ขาสองข้างนี่แหละ ไปเรื่อยๆ เหนื่อยก็พัก อากาศกำลังดี มีสลับกับฝนทำท่าจะตก (แต่ไม่ตก) บ้าง 

Downtown Vancouver
align=

align=

align=

align=

align=

align=

Totem poles ใน Stanley Park
align=

Lions Gate Bridge
align=

align=

China Town
align=

Pacific Spirit Park
align=

31 ส.ค. 55
เช้าวันนี้กิจกรรมตอนเช้าเรย ไปดูปลาวาฬอีกครั้ง ถ้าวันนี้ไม่เจออีก ก็เป็นอันว่าไม่เจอ เพราะต้องบินเย็นนี้แล้ว 

ปรากฎว่าไม่ได้ไปไกลเท่าวันก่อน แต่ก็เจอฝูงปลาวาฬเพชรฆาตฝูงจำนวนน่าจะประมาณ 25 ตัวได้ ว่ายวนเวียนอยู่บริเวณเดียวกัน พร้อมกับ full show คล้ายกับรู้ว่าทำให้เราผิดหวังเมื่อวันก่อน วันนี้เรยจัดเต็มให้ดู ทั้งกระโดด (breaching) ทั้งเข้ามาใกล้เรือมากๆ จนปรับเลนส์ไม่ทัน 

align=

align=

align=

อันนี้เค้าเข้ามาใกล้มากจนปรับเลนส์ไม่ทัน
align=

align=

align=

align=

align=

align=

เรือก็ใช่ว่าจะลำใหญ่ ลมไม่แรงมากแต่ก็ทำให้เรือโคลงอยู่ตลอดเวลา พร้อมกับการพยายามจับภาพ ซ้ายขวาหน้าหลังบนล่าง พอดูจนฝูงปลาวาฬว่ายไกลออกไป เรือกำลังหันหัวกลับ เมาเรือ แต่คุ้มมาก เย้ ไม่เสียเที่ยวแล้ว

Vancouver สวยน่ะ ต้องการมุมสงบก็มี มุมพลุกพล่านก็มี มุมกิจกรรมล้านแปดก็มี ครบและสวย มีกิจกรรมให้ทำเป็นล้าน จากเบาไปหาเอกซ์ตรีม เฉพาะ British Columbia เนี่ยซักเดือนถึงจะพอ เราก็เอาแค่หอมปากหอมคอก็พอ มีคนถามว่าชอบท่ีไหนท่ีสุด ตอบว่าชอบหมดเลยเพราะแต่ละท่ีมีความแตกต่างทางภูมิประเทศ วัฒนธรรมและอื่นๆ แต่ถ้าถามว่าอยากอยู่ท่ีไหนมากที่สุด ตอบ 1)ไทย 2)นิวซีแลนด์ ตอนนี้มีอันท่ีสามคือแคนาดา ไม่ว่าจะฝั่งตะวันออกหรือตะวันตก สวยหมดเลย น่าอยู่ สงบ เป็นระเบียบ เข้าถึงกิจกรรมต่างๆได้ง่ายสะดวก 

เสร็จจาก whale watching รีบกลับมา checkout ไปสนามบิน เพื่อให้ทัน flight 17.50น. ไป Anchorage via Seattle ต้องขอบอกว่า Security Check ที่นี่เล่นเอาเหนื่อย Terminal ที่ฝั่งแคนาดาจะเข้าอเมริกา ต้องคนละอาคารเลย เพราะ process ตรวจมากมายและนาน พอไปถึงฝั่งอเมริกา ตรวจเหมือนเดิมอีกรอบ แม่เจ้าหลังจากเหตุการณ์ 9-11 มา Security Check ยังคงเข้มข้นเหมือนเดิม จำได้ว่าเมื่อต้องเดินทาง business trip ไปอเมริกาเมื่อสองสามปีหลังเหตุการณ์ 9-11 Security Check แม้กระทั่งบินภายในประเทศ ยังเล่นเอาเหนื่อย ทำบ่อยจนจำขั้นตอนมาตรฐานได้ ผ่านมาหลายปีมากแล้ว ยังคงมาตรฐานเช่นเดิม หรือจะออกแนวเพิ่มระดับด้วยซ้ำไป 

มาถึง Anchorage เที่ยงคืนพอดี และยังเจอว่า hostel ที่จองไว้ล่วงหน้า เค้าไม่ทราบว่าเราจะเข้าพัก มีปัญหาเรื่องระบบคอมพิวเตอร์ แต่ไม่เป็นไร ดีนะว่าไปถึงมีเตียงว่างหนึ่งเตียงพอดี ไม่งั้นคืนนี้ได้นอนโซฟาหน้าทีวีห้องนั่งเล่นแน่ๆ

จบตอนนี้เท่านี้ก่อนค่ะ จะยาวเกินไป ส่วนตอนหน้าจะมาเล่าประสบการณ์ที่ Alaska ให้อ่านค่ะ