Trans-Mongolian ตอนที่ 2
Posted on September 20, 2014 11:45
Posted on September 20, 2014 11:45
ตอนนี้เป็นประสบการณ์บนรถไฟจาก Moscow ไปจนถึงเมือง Irkutsk
16-18 มิ.ย. 55
เป็นการใช้ชีวิตบนรถไฟ ในชีวิตไม่เคยต้องนั่งรถไฟนานขนาดนี้มาก่อน แต่ก็ใช่ว่าจะต้องอยู่บนรถไฟไปตลอด 80 ชั่วโมง ในแต่ละสถานีที่จอด เราก็ลงไปยืดแข้งยึดขา ซื้อเสบียงมาเติม หรือบางสถานีจอดนานหน่อย ก็เดินออกไปได้ไกลหน่อย แต่ก็ไม่ได้ว่านานมาก
การเดินทางบนรถไฟที่มีระยะเวลานานขนาดนี้ สิ่งที่ควรต้องเตรียม นอกเหนือจากอุปกรณ์สำหรับอาบน้ำแปรงฟันที่เรามีติดตัวอยู่แล้วตามปกติ
- หนังสือ
- เกมส์ที่สามารถเล่นได้กับคนอื่นที่ไม่ต้องอธิบายอะไรมาก เรามีไพ่ UNO ไปด้วย
- เกมส์ที่เราเล่นคนเดียว
- หนัง ซีรีย์ ใส่ hard disk ไปให้พร้อม
- คอมพิวเตอร์หรือ tablet และอย่าลืม headphone
- โทรศัพท์ และควรซื้อซิมการ์ดของรัสเซียที่สามารถเล่นอินเตอร์เน็ทเพียงพอไปจนสุดเขตชายแดน (ราคาไม่แพง แต่กว่าจะซื้อได้ สื่อสารลำบากทีเดียว เพราะหาคนขายซิมที่พูดภาษาอังกฤษได้ยาก)
- ขนมและเครื่องดื่มที่ชอบ ถ้าให้ดีมีขนมที่สามารถแบ่งคนอื่นทานได้ด้วย ในรถไฟมี dining car เราซื้อหาได้ แต่ก็นะ มันไม่หลากหลายนัก แต่ถ้ากินง่ายอยู่ง่าย ก็ที่ dining car หรือซื้อเอาที่สถานีที่รถไฟหยุดได้
- ยาที่จำเป็นสำหรับเรา
- รูปครอบครัว และรูปสถานที่สวยๆ ในประเทศไทย เอาไว้ให้เพื่อนร่วมเดินทางได้ดู เวลาคุยกัน
- ใส่เสื้อผ้าที่มิดชิดพอควร แต่ก็สบายๆ เพราะเราจะต้องนั่ง ต้องนอนไปอีกนานหลายสิบชั่วโมง
- ที่ปิดตา เวลานอนตอนกลางวัน
- ที่ล๊อคกระเป๋าเราเวลาเรานอนหลับ ล๊อคแบบที่ไม่ให้เปิดกระเป๋า และที่ล๊อคกระเป๋าเราติดไว้กับเตียงได้ก็จะดี สำหรับเราจะได้ไม่ต้องกังวลเวลาเดินออกจากห้องตัวเองหรือนอนหลับได้แบบสนิทใจ
- เริ่ดขึ้นไปอีกถ้ามี GPS ติดไปด้วย เพราะจะมีกม.ที่สำคัญที่ทำให้เราสนุกไปกับการ track ว่าถึงจุดสำคัญอะไร
เราเลือกที่จะนั่งรถไฟชั้นสอง คือมีเพื่อนร่วมห้องแค่คนเดียว ได้เพื่อนร่วมห้องเป็นชายชาวรัสเซีย พื้นเพเป็นคนที่ Vladivostok เคยเป็นตำรวจและตอนนี้ออกมาทำงานด้านความปลอดภัยในกรุงมอสโคว เค้ากะลังจะกลับไปเยี่ยมบ้าน (เนื่องจากภาษาอังกฤษเค้าไม่ดี ภาษารัสเซียเราไม่ได้ แต่คิดว่าเข้าใจว่าเค้าหมายถึงอาชีพนี้) ตอนนี้แหละที่ภาพของเมืองไทย และภาพของคนในครอบครัว เป็นสิ่งที่จำเป็น ว่าแล้วทั้งเราและเค้าก็งัดเอาภาพเหล่านี้ขึ้นมาเล่าสู่กันฟัง ก็ ice breaking กันไป รู้จักกันมากขึ้น
สิ่งหนึ่งที่ควรรู้ก่อนไปคือลักษณะของคนรัสเซียที่เป็นคน conservative แบบนี้ เค้าจะ treat ผู้มาเยือนบ้านเค้าอย่างเราเนี่ยแบบว่าดูแลกันให้ดีสุดๆ จนกว่าเราจะแยกกัน นั่นคือสิ่งที่คนเหล่านี้คิดว่าเราเป็นความรับผิดชอบของเค้า และเราก็ได้รับการดูแลอย่างนั้นจริงๆ จนบางครั้งเราจะรู้สึกว่ามากไป อาจอึดอัดได้ และเพื่อไม่ให้รู้สึกอึดอัด เราควรสร้างมิตรไม่ใช่เฉพาะคนร่วมห้อง แต่เพื่อนห้องข้างๆ ไปอีกซักห้องสองห้อง รวมถึงเจ้าหน้าที่รถไฟ ให้เค้าคุ้นเคยกับเรา
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ควรไว้ใจใครเกินไปแม้ว่าเค้าจะดีสุดๆ เคยมีเหตุนักท่องเที่ยวชาวสวีเดนถูกข่มขืนโดยคนที่แชร์ห้องบนรถไฟด้วย ไม่ใช่บนรถไฟ แต่หลังจากลงรถไฟไปแล้ว ด้วยความที่เพื่อนร่วมเดินทางใจดีจัด จนเกิดความไว้ใจสุดฤทธิ์ แต่ใช่ว่าจะเกิดกับทุกคน ย้ำอีกครั้ง Better Safe than Sorry การทำความรู้จักกับเพื่อนห้องข้างๆ รวมถึงเจ้าหน้าที่รถไฟ จะทำให้สถานการณ์ของเราไม่ล่อแหลมจนเกินไป
สิ่งที่สนุกของการนั่งรถไฟแบบนี้นอกเหนือจากสถานการณ์ให้เราต้องทำความรู้จักกับคนแชร์ห้องและห้องข้างๆ ไหนจะคอยแทรคว่าถึงไหนแล้ว จุดนี้มีอะไรสำคัญที่ไม่ควรพลาด แล้วยังมีวิวข้างทางที่เราจะเห็นความแตกต่างทางภูมิประเทศระหว่างรัสเซียตะวันตก เข้าสู่เขตไซบีเรีย ต่อด้วย open steppe ในมองโกเลีย ทะเลทรายด้านตะวันออกของมองโกเลีย และเขียวขจีของภูเขาและพื้นที่เกษตรกรรมในจีน
ว่าแล้วก็ All Aboard!!!
Cabin นี้มี 2 เตียง ด้านล่างเป็นที่นั่ง ด้านบนเป็นเตียง
ทุกโบกี้ จะมี Samovar หรือหม้อต้มน้ำแบบนี้ ให้เราได้ใช้ดื่มหรือจะชงชา กาแฟ หรือลวกบะหมี่อะไรก็ว่าไป
ทุกสถานีจะมี Kiosk ขายของแบบนี้ไปตลอดทาง ไม่ต้องห่วงว่าจะอด
แถมยังมีคนมาขายของทั้งสด ทั้งแห้ง และยังเป็นของท้องถิ่น ผ่านไปที่ไหนอะไรเด่น ก็ขายกันแบบนี้เลย
ภาพที่ทุกคนต้องถ่ายระหว่างเดินทางบนรถไฟ คือพระอาทิตย์ขึ้น (ถ้าตื่นทัน) และพระอาทิตย์ตก
วิวสวยๆ ข้างทาง ให้เราได้เห็นบ้านเรือนและวิถีชีวิตของเค้า
หลายๆ สถานีจะมีหัวรถจักรเก่ามาตั้งให้เราได้ลงไปชมและถ่ายรูป
เหล่านี้คือตัวอย่างของอาหารที่เพื่อนร่วมเคบินชาวรัสเซียนำติดตัวมา เค้ก ไข่ต้ม
ขนมปังกับแฮมลิ้นวัว ทำเป็นแซนวิช เค้าชักชวนเราชิม เราก็เอิ่มมมม ไม่ได้ว่ารังเกียจ แต่ว่าลิ้นชิ้นเบ่อเริ่มขนาดนี้ เค้กพอได้ แต่อันนี้ขอเถอะ อย่าให้ลองเลย 555 เค้าจะรู้สึกเสียใจถ้าเค้าเสนอแล้วเราไม่รับ เราเลยขอว่าขอชีสอย่างเดียวแล้วกันนนะ สังเกตสีหน้าว่าเค้ายิ้มออก เฮ้อ
อีกเช้า เป็นชีสแซนวิช กับผลไม้
19 มิ.ย. 55
มาถึง Irkutsk เวลา 7.30 น. มีไกด์สาวสวยขาวรัสเซียมารับ เพื่อไปยัง Listvyanka village ซึ่งเป็นหมู่บ้านริมทะเลสาบที่จุน้ำจืดมากที่สุดในโลก นั่นคือ Lake Baikal และยังถือว่าเป็นทะเลสาบน้ำจืดที่มีความลึกที่สุดในโลกด้วย ที่พักเป็น home stay เจ้าของบ้านน่ารักมาก ทำอาหารอร่อยอ่ะ
มีเวลาเดินออกไปสำรวจหมู่บ้านเล็กๆ น่ารักแบบนี้
บ้านที่หน้าต่างเด่นแบบนี้เป็นบ้านโบราณ ตัวบ้านจะไม่ทาสี ทาแต่หน้าต่างให้เด่นออกมา ถือเป็นสถาปัตยกรรมแบบโบราณของที่นี่
อาหารที่ home stay ทุกอย่างอร่อยหมดเลย ทั้งอาหารเช้า
อาหารเย็น เป็นเนื้อปลาที่รสหวานนำมาปรุงได้กลมกล่อมมาก ชอบที่สุด
อันนี้เป็นซุป คล้ายๆ กับเกี๊ยวบ้านเรา แต่ข้างในเป็นเนื้อปลา ทานกับครีมชีสแบบนี้ และสลัดผัก
มาถึง Lake Baikal สิ่งที่ต้องลองแล้วจะรู้ว่ารสเริ่ดดดดมาก คือปลา Omul
พิพิธภัณฑ์ Lake Baikal เก็บข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับสัตว์ในทะเลสาบแห่งนี้ ทั้งที่อยู่ลึกที่สุดเท่าที่จะทำการศึกษาไปถึง น่าสนใจมากทีเดียว
เดินไปอีกด้าน ก็เป็นสถานที่แสดงโชว์แมวน้ำ น้ำจืด ก็แมวน้ำจากทะเลสาบนี่แหละ เอามาฝึก น่ารักมาก
ที่นี่มีตลาดน่ารักๆ ขายของและอาหารพื้นเมือง ประเภทปลาตากแห้ง ของหัตถกรรมและของฝากของที่ระลึกต่างๆ
ถ้าอากาศดี ว่าจะนั่งเรือไปอีกด้านของทะเลสาบ แต่ดูแล้วน่าจะฝนตก มองอะไรไม่เห็นมาก
ที่นี่มีกิจกรรมอย่างหนึ่งที่น่าสนใจมาก เรียกว่า Ice Diving แม้ว่านี่จะเป็นช่วงจะเข้าหน้าร้อนสุดๆ ของที่นี่ แต่อุณหภูมิในทะเลสาบน่าจะอยู่ที่ 12 องศา เท่านั้น และยิ่งลึกลงไปยิ่งต่ำกว่านี้ แต่เนื่องจากทะเลสาบไม่เป็นน้ำแข็ง สามารถดำลึกได้ ถ้าจะดำต้องใส่ชุดแบบที่เค้าดำน้ำแข็ง ร่างกายต้องพร้อม แต่ช่วงอากาศแบบฝนตกถี่แบบนี้ visibility จะต่ำมาก เลยกลายเป็นว่าไม่ควรดำน้ำ อดไปอีกอย่าง แต่ได้บรรยากาศเมืองในฝัน แบบว่าภูเขาหมอกจางๆ และควัน (เหมือนเพลงพี่เบิร์ด) ได้อีกอารมณ์นึงเหมือนกัน ชวนฝันดี
20 มิ.ย. 55
กิจกรรมฤดูร้อนที่นี่ก็ต้อง Hiking
เริ่มเดินกันเรย ฝนตก พื้นลื่น แถมชัน และเดินตามแนวริมเขา แหม มันเสียวจะพลาดไถลตกเขาจริงๆเรย
แต่เดินก็เพลิ๊นเพลิน ชมต้นไม้ ดอกไม้ไปเรื่อย เขียว สวยมาก
ภาพสวยๆ ของ Lake Baikal จากเขาที่เราอุตส่าห์ hike ขึ้นมาแบบเปียกๆ วันนี้
น้ำใสสุดๆ และเย็นเจ๊ยบ
หยุดทานอาหารกลางวันริม Lake บรรยากาศแบบหมอกๆ อากาศเย็นนิดหน่อย เพลินจริงไรจริง
จบจากการ Hiking ว่าจะออกไปเดินเล่นต่อ แต่ฝนก็ไม่เป็นใจ ตกลงมาซะชื้นแฉะไปหมด เกรงว่าจะเป็นไข้เลยทีเดียว เลยไม่ออกไปไหนแล้ว นอนเร็วดีกว่า
21 มิ.ย. 55
ทานอาหารเช้า (สาย) เสร็จ ก็กลับเข้า Irkutsk ได้มีเวลาชมเมือง Irkutsk วันนี้
Epiphany Cathedral
แม่น้ำ Irkut
ในเมือง Irkutsk จะมีถนนอยู่เส้นหนึ่งที่ยังคงอนุรักษ์สภาพบ้านแบบเก่าไว้ เพื่อเป็นสัญลักษณ์
22 มิ.ย. 55
เดินเล่นอีกหน่อยใน Irkutsk สบายๆ อากาศดีจัง ไม่ร้อน ไม่หนาวจนเกินไป พอดีเดินเล่นอยู่นั้น ก็เจอการสวนสนามของนักเรียน ที่อนุสาวรีย์ทหารที่รบในสงครามแล้วเสียชีวิต จะมีเด็กนักเรียนจากโรงเรียนต่างๆ เวียนกันมา คล้ายๆ กับการเปลี่ยนการ์ดในวัง ประมาณนั้นเรย
สี่ทุ่มคืนนี้เดินทางต่อโดยรถไฟ ไปยัง Ulaanbaatar ประเทศ Mongolia
สภาพรถไฟมองโกเลีย ต่างกันลิบลับเรยกับของรัสเซีย
เพื่อนร่วมเคบินขบวนนี้เป็นนักเรียนแพทย์ชาวมองโกเลียที่กำลังศึกษาที่ Irkutsk กลับมาเยี่ยมบ้านพร้อมพี่สาว งัดไพ่ UNO ออกมาชวนเค้าเล่นฆ่าเวลา พี่น้องคู่นี้หน้าตาน่ารักและนิสัยดีมากอ่ะ พูดกันไม่ค่อยรู้เรื่องเช่นเคย เค้าไม่ได้อังกฤษ เราไม่ได้รัสเซียกับมองโกเลีย แต่เล่นเกมส์ไปด้วยกันได้
ส่วนนี่คือลูกชายอายุขวบกว่าๆ มารอรับแม่ (คนพี่สาว) ที่สถานีรถไฟ น่ารักสุดๆ ตอนแรกนึกว่าลูกสาว เค้าบอกลูกชาย เด็กผู้ชายไว้ผมยาวอย่างงี้แหละ เป็นธรรมเนียมเค้า น่านนนนน ความรู้ใหม่เรยนะนี่
23 มิ.ย. 55
ตื่นเช้ามาวันนี้ กับภาพบ้านเรือนผู้คนตามริมทางรถไฟช่วงก่อนถึงชายแดนมองโกเลีย
ภูมิประเทศเมื่อผ่านชายแดนมองโกเลียเข้ามา มองโกเลียแล้ววววว
จบตอนนี้ที่นี่ ตอนหน้าจะมาเล่าต่อประสบการณ์ที่ Ulaanbaatar ถึงปักกิ่ง ค่ะ
#thaitraveltheworld
#Irkutsk#transmongolia#lakebaikal